วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

                   ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อตั้งเมื่อปี พศ. 2536 มีช้างในความดูแลมากกว่า 50 เชือก ตั้งอยู่ระหว่าง กม. 28-29 ถนน ลำปาง-เชียงใหม่ อำเภอ ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม ยังเป็นผู้บุกเบิกงานด้านการอนุรักษ์ช้างและการทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ และนับเป็นความภาคภูมิใจของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นสถานที่ดูแลช้างต้นหรือช้างสำคัญของพระมหากษัตริย์ถึง 6 ช้างในพื้นที่ของโรงช้างต้น
เนื่องจากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเป็นปางช้างแห่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นของรัฐบาล การเดินทางมาเยี่ยมช้างจึงเป็นสิ่งที่ง่าย และ มีค่าใช้จ่ายไม่มาก โดยมีค่าบัตรผ่านประตูเพียง 80 บาทสำหรับผู้ใหญ่คนไทย และ 40 บาทสำหรับเด็ก เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวหรือนักเรียน
ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายโดยแบ่งออกเป็น แบบที่หนึ่ง เที่ยวในหนึ่งวัน ได้แก่ การแสดงช้างช้างอาบน้ำ การแสดงช้าง เยี่ยมชมลูกช้าง และบริการนั่งช้างชมธรรมชาติ แบบที่สองเที่ยวแบบค้างคืน ได้แก่ โปรแกรมฝึกเป็นควาญช้างสมัครเล่นและโปรแกรมเดินป่า
ด้านการอนุรักษ์ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้ก่อตั้งโรงพยาบาลช้างและโครงการสัตวแพทย์สัญจรซึ่งถือว่า เป็นแห่งแรกของประเทศไทยโดยทำการรักษาช้างเอกชนทุกเชือกโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆนอกจากนั้นศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยยังได้ทำการวิจัยเรื่องของการขยายพันธุ์ช้างและการผสมเทียมช้าง รวมถึงการศึกษาวิจัยการทำงานของระบบกล้ามเนื้อของช้าง
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยถือว่าเป็นผู้บุกเบิกงานทางด้านศิลปะของช้าง ซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการฝึกช้างให้วาดภาพเป็นแห่งแรก และยังเป็นสถานที่ก่อตั้งวงดนตรีช้างแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยภายใต้การดำเนินงานโดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลไทย และยังเป็นศูนย์รวมความรู้เรื่องช้างและผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับช้างโดยได้ร่วมมือกับองค์กรอื่นๆของรัฐและเอกชน ในการช่วยเหลือช้างของประเทศมากกว่า 2,700 เชือก





น้ำตกวังแก้ว


             น้ำตกวังแก้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งในอุทยานแห่งชาติดอยหลวงซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2533 ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดพะเยา
เชียงรายและลำปาง รวมเนื้อที่ประมาณ 731,250 ไร่ สภาพภูมิประเทศเป็นเขาสูงทอดตัวแนวเหนือ-ใต้ มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าเต็งรังปะปนกัน
มีสัตว์ป่าและน กหลายชนิด ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่บริเวณน้ำตกวังแก้ว
น้ำตกวังแก้ว เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของจังหวัดลำปาง เกิดจากการทับถมของหินปูนที่ปนมากับน้ำ มีชั้นน้ำตกประมาณ 102 ชั้น แต่เป็นชั้นใหญ่ 9 ชั้น
เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของน้ำตกจะพบหมู่บ้านชาวเขาเผ่าเ ย้าที่บ้านป่าคาหลวง และบ้านส้านซึ่งมีทางขึ้นค่อนข้างชัน ที่น้ำตกวังแก้วยังมี เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร
นักท่องเที่ยวต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทาง  นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมี  น้ำตกวังทอง ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำตก วังแก้ว ค่าธรรมเนียมเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท 
สามารถกางเต็นท์ได้แต่ต้องเตรียมอาหารไปเอง 
จากอำเภอเมืองใช้ถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม-วังเหนือ ไปประมาณ 110 กิโลเมตร เลี้ยวขวาที่อำเภอวังเหนือ  เข้าทางหลวงหมายเลข 120 สายวังเหนือ-พะเยา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข
1303  ไปปร ะมาณ 20 กิโลเมตร ถึงน้ำตก ถนนเป็นทางลาดยางตลอดสาย ส่วนทางเข้า น้ำตกวังทอง จากปากทางใหญ่ที่เข้ามาจะถึงก่อนน้ำตกวังแก้วประมาณ 9 กิโลเมตร
หากเดินทางโดยรถประจำทางสามารถนั่งรถสองแถวสีฟ้าสายลำปาง-วังเหนือมาลงหน้าที่ว่าการอำเภอ จากนั้นต้องเช่ารถเข้าไปยังน้ำ ตก




หมู่บ้านแกะสลักบ้านหลุก


                  แกะสลักบ้านหลุก เป็นหมู่บ้านแกะสลักไม้มาหลายชั่วอายุคน กลุ่มลานค้าชุมชนตำบลนาครัวเป็นการรวมกลุ่มแกะสลักไม้แต่ละปาง(กลุ่ม) ซึ่งเป็นกลุ่มแกะสลักไม้ของบ้านหลุกสินค้าแต่ละชิ้น เป็นงานฝีมือ ทุกชิ้นงานจะใช้มือในการแกะ ซึ่งเดิมทีมีช่างแกะสลักชื่อ “นายจันทร์ดี แก้วชุ่ม” เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญ ด้านช่างไม้พื้นบ้านมาอาศัยอยู่ มีการนำการแกะสลักแบบใหม่ เข้ามาทำในหมู่บ้านจนมีชื่อเสียงและมีลูกค้าต้องการมากและนำมาถ่ายทอดสู่ลูกหลานและเพื่อนบ้านจนเกิดเป็นหมู่บ้านแกะสลักที่มีชื่อเสียงสืบทอดกันมา และผู้ที่จะแกะสลักจะนับถือ เรียกว่า “สล่าจันทร์ดี” จะมีการไหว้ครูและถือเป็นครูคนแรกของการแกะสลักบ้านหลุก
ปัจจุบันบ้านหลุกเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศที่มีความสามารถด้านการแกะสลักไม้ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นและถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่เยาวชนและมีการแกะสลักเป็นรูปเหมือนสัตว์ต่างๆ และพัฒนาในรูปแบบใหม่ๆ เช่น รูปเหมือนคน รูปเหมือนพระพุทธรูปรูปเหมือนหลวงพ่อ และมีการทำเถาวัลย์เป็นของที่ระลึกของชำร่วย ทำเป็นดอกไม้ เครื่องเขินประยุกต์และมีการจัดตั้งสถานที่จำหน่ายสินค้าของหมู่บ้านขึ้น ตั้งแต่ปี 2536 คือ “ลานค้าชุมชนตำบลนาครัว” ลานค้าชุมชนตำบลนาครัวเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าแกะสลักของบ้านหลุก และตำบลนาครัว โดยจัดแบ่งเป็นห้อง ๆสำหรับให้แต่ละกลุ่มมาจำหน่ายสินค้า
จากตัวเมืองลำปางใช้ทางหลวงหมายเลข 1037 (ลำปาง-แม่ทะ) ขับตรงไปเรื่อยๆ จนผ่านตัว อ.แม่ทะ มาถึงบริเวณวัดศรีอ้วนจะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปจนถึงสี่แยกบริเวณวัดน้ำโท้ง ให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ตรงไปราว 1.5 กม. ก็จะถึงบ้านหลุกซึ่งอยู่ทางขวามือ รถรับจ้าง เหมารถสองแถว ที่อยู่เยื้องวัดศรีชุม ราคา 200 บาท
บ้านหลุกเป็นแหล่งผลิตงานแกะสลักไม้ส่งไปยัง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผ่านจำหน่ายไม้แกะสลักชื่อดังของประเทศ ทั้งหมู่บ้านจะมีอาชีพหลักคือการแกะสลัก โดยสอนกันในครอบครัวรุ่นต่อรุ่น ช่วงปิดเทอมเด็กนักเรียนจะมีเวลาสำหรับฝึกมือ โดยมีพี่ น้า หรือพ่อ ช่วยถ่ายทอดวิชา เมื่อมีฝีมือถึงระดับหนึ่งก็สามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ เป็นอาชีพอิสระที่รายได้ดี หากขยันก็ร่ำรวย 





อุทยานแห่งชาติแม่วะ


                อุทยานแห่งชาติแม่วะ อยู่ในบริเวณพื้นที่ตำบลแม่วะ ตำบลเถินบุรี ตำบลล้อมแรด ตำบลแม่ปะ ตำบลแม่มอก ตำบลเวียงมอก อำเภอเถิน ตำบลพระบาทวังตวง อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง และตำบลวังจันทร์ อำเภอสามเงา ตำบลแม่สลิด อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ประกอบด้วย ภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด มีทิวทัศน์ที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ เช่น น้ำตกแม่วะ มีน้ำไหลตลอดปีเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป การคมนาคมสะดวก อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเถินประมาณ 19 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติแม่วะ มีเนื้อที่ประมาณ 589 ตารางกิโลเมตร หรือ 368,125 ไร่ ได้ประกาศจัดจั้งเป็น "อุทยานแห่งชาติแม่วะ" เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2543
   สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกของพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน ทางตอนกลางถึงตอนใต้ของพื้นที่เป็นเทือกเขาสูง โดยบริเวณยอดเขาจะเป็นพื้นที่ราบกว้างใหญ่ ซึ่งมีต้นสนเขาขนาดใหญ่ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไป ทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ส่วนทางทิศตะวันตกของพื้นที่เป็นภูเขาหินปูน ความสูงประมาณ 300-400 เมตร จากระดับน้ำทะเล ประกอบด้วยดอยผาจี่ ดอนผาขัดห้าง ดอยปูโมะ และดอยแปรหลวง โดยมีดอยผาจี่ เป็นดอยที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1,027 เมตร
   เป็นแบบมรสุมเมืองร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงฤดูฝน และ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว ฤดูฝนเริ่มกลางเดือนพฤษภาคม-กันยายน และมีฝนตกหนักในเดือนกันยายน ฤดูหนาวเริ่มเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูร้อนเริ่มเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม
   สภาพป่าในพื้นที่สำรวจนี้ ได้แก่ ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ มะค่าโมง แดง ประดู่ ตะแบก ชิงชัง มะกอกป่า ยมหิน รกฟ้า กระโดน ตะเคียนทอง กระบาก เต็ง รัง เหียง สนสองใบ สนสามใบ เป็นต้น 
ส่วนสัตว์ป่านั้นเนื่องจากสภาพป่าอยู่ในเขตภูเขาสลับซับซ้อน อีกทั้งสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีแหล่งอาหารและแหล่งน้ำกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ จึงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มาก เช่น เสือโคร่ง กระทิง หมีควายกวางป่า เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า จำพวกนกได้แก่ เหยี่ยว นกฮูก นกกระปูด นกเค้าแมว กบและปลาชนิดต่างๆ






อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท

                อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม อำเภองาว จังหวัดลำปาง มีลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก มีสวนสักกระจายอยู่ทั่วไป เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์จำนวนมาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ชั้นที่ 160 มีจุดเด่นและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ คือ ถ้ำผาไท หล่มภูเขียว บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม ถ้ำออกรู ห้วยแม่พลึง นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ คือ ศูนย์ฝึกลูกช้าง มีเนื้อที่ประมาณ 758,750 ไร่ หรือ 1,214 ตารางกิโลเมตร
ตามคำสั่งกรมป่าไม้ ที่ 1627/2532 ให้ นายพูนสถิตย์ วงศ์สวัสดิ์ นักวิชาการป่าไม้ 5 กองอุทยานแห่งชาติดำเนินการสำรวจเพิ่มเติม และจัดตั้งพื้นที่ป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาง-ป่าแม่งาว ป่าแม่ต๋า-ป่าแม่มาย ป่าแม่งาวฝั่งขวา และป่าแม่โป่ง ในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม และอำเภองาว จังหวัดลำปาง เพื่อประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยให้ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ด้วย
ผลการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทพบว่า เป็นป่าธรรมชาติที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งประชาชนและหน่วยงานต่างๆ รู้จักเป็นอย่างดี ได้แก่ เขื่อนกิ่วลม และถ้ำผาไท โดยได้ขออนุมัติใช้ชื่ออุทยานแห่งชาติตามหนังสืออุทยานแห่งชาติ ที่ กษ 0713(ผท)/20 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2534 ว่า อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ซึ่งนายไพโรจน์ สุวรรณกร อธิบดีกรมป่าไม้ อนุมัติให้ใช้ชื่อ อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2534 ปัจจุบันกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณาประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติต่อไป 
ฤดูร้อนจะร้อนจัด มีลมพัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน ฝนตกสม่ำเสมอ มีลมพัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ บางครั้งมีพายุพัดแรงมาก เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาวอากาศหนาวจัด ในตอนกลางคืนและตอนเช้ามีหมอกปกคลุมทั่วไป ลมหนาวพัดมาจากทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์






วัดปงสนุก


              วัดปงสนุก แห่งเขลางค์นคร ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทย ที่พึ่งได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO ในปี 2008 เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ จากชุมชน-รัฐ
       
วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พึ่งรับมอบรางวัลดี (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO โดยมีดร.ริชาร์ด อิงเกิลฮาร์ทที่ปรึกษาอาวุโสในผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านวัฒนธรรมประจำองค์การยูเนสโก เป็นผู้ถวายรางวัลหออารักษ์
       
เสาหลักเมืองเสาแรกของเขลางค์นคร หรือจังหวัดลำปาง จากประวัติศาสตร์พบว่า เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ช่วงปี พ.ศ.2346 ที่พญากาวิละได้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นของพม่า และได้กวาดต้อนชาวเชียงแสนซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านปงสนุกมาตั้งถิ่นฐานที่ลำปาง รวมถึงการอพยพของคนเมืองพะยาวที่หนีศึกพม่าลงมายังลำปาง ชาวปงสนุกเชียงแสน และชาวพะยาว จึงได้ ตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้าน
วิหารหลังมียอด หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์ ราว พ.ศ.2386 เจ้าหลวงมหาวงศ์ได้ไปฟื้นฟูเมืองพะเยาขึ้นใหม่ รูบาอินทจักรพระอุปัชฌาย์ของครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนี ได้นำชาวพะยาว (พะเยา) อพยพกลับ แต่ก็ยังคงเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมกลับ ละได้มาตั้งรกรากอยู่กับชาวบ้านปงสนุก ตั้งแต่นั้นมาชื่อวัดและหมู่บ้านจึงเหลือเพียง ปงสนุกเพียงชื่อเดียว
บันไดทางขึ้นซุ้มประตูโขง ที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของวัดอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งกำลังรอรับการบุรณะต่อไป
ต่อมา จึงได้มีการแบ่งวัดเป็นวัดปงสนุกด้านเหนือและวัดปงสนุกด้านใต้ เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2429 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยเริ่มจากการซ่อมพระเจดีย์ สร้างฉัตร ก่อซุ้มประตูโขง วิหารหลังมียอด หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากในสมัยก่อนทั้งเจ้านายชั้นสูงและประชาชนทั่วไป เมื่อมีเคราะห์ ต่างก็จะพากันมาสะเดาะเคราะห์ ณ วิหารแห่งนี้ทั้งสิ้น 






เขื่อนกิ่วลม

             เขื่อนกิ่วลม เป็นเขื่อนในการดูแลของกรมชลประทาน ตั้งห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางสายลำปาง-งาว ประมาณ 38 กิโลเมตรเศษ แยกซ้ายกิโลเมตรที่ 623 เข้า ไปอีก 14 กิโลเมตร
เขื่อนกิ่วลมขณะก่อสร้างถูกใช้เป็นฉากของเรื่องสั้นชุดชาวเขื่อนโดย มนันยา มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับชีวิตของข้าราชการกรมชลประทานและเหล่าคนงานก่อสร้าง เธอได้รับแรงบันดาลใจในการแต่งจากการติดตามสามีของเธอที่เป็นหนึ่งในข้าราชการควบคุมการก่อสร้าง เรื่องสั้นถูกตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสาร
การใช้ประโยชน์ เพื่อ การเพาะปลูกในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วังกิ่วลม ในฤดูในได้พื้นที่ประมาณ 55,000 ไร่ นอกจากนี้ยังใช้น้ำเพื่อการประปาและช่วยบรรเทาอุทกภัย ในเขตจังหวัดลำปางประโยชน์ด้านการชลประทาน ใช้ประโยชน์เพื่อการเพาะปลูกในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วังกิ่วลม ในฤดูในได้พื้นที่ประมาณ 55,000 ไร่ นอกจากนี้ยังใช้น้ำเพื่อการประปาและช่วยบรรเทาอุทกภัย ในเขตจังหวัดลำปางการชลประทาน สามารถส่งน้ำที่เก็บกักไว้ในอ่างเก็บน้ำไปใช้ในระบบชลประทาน ได้เป็นพื้นที่ ๕๕,๐๐๐ ไร่ บรรเทาอุทกภัย ช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมในเขตจังหวัดลำปางจากปริมาณเอ่อล้นแม่น้ำวังในช่วง ฤดูน้ำหลากได้เป็นอย่างดีการประมง อ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลมเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ทำให้ราษฎรมี รายได้เพิ่มขึ้นการประปา น้ำในเขื่อนกิ่วลมเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับทำน้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภคในเขต ลำปางการท่องเที่ยว เขื่อนกิ่วลมเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง อ่างน้ำเหนือเขื่อนมีทัศนียภาพที่งดงาม มีแพพัก มีแพร้านอาหาร มีกิจกรรมล่องเรือชมวิว เล่นวินเสริฟ บานาน่าโบ๊ท เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
เขื่อนกิ่วลม ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางสายลำปาง-งาว ประมาณ ๓๘ กิโลเมตรเศษ แยกซ้ายกิโลเมตรที่ ๖๒๓ เข้า ไปอีก ๑๔ กิโลเมตรถึงเขื่อนกิ่วลมซึ่งขึ้นกับกรมชลประทาน เปิดให้ชมและพักผ่อนในบริเวณเขื่อนได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น. การล่องแพใช้เวลาครึ่งวัน ติดต่อได้ที่สำนักงานท่องเที่ยวบริเวณเขื่อน ถ้าต้องการค้างคืนบนแพ หรือที่รีสอร์ทในบริเวณเขื่อน